5/9/61

ชำระปณิธาน ชำระสัมพันธ์ 了愿了緣


เธอถูกฉันผิด ฉันขอโทษเธอ
เธอถูกฉันไม่ผิด ฉันก็ขอโทษเธอ
เธอผิดฉันไม่ผิด ฉันก็ยังขอโทษเธอ
ฉันถูกเธอผิด ฉันก็ยิ่งต้องขอโทษเธอ
ภพก่อนชาติปัจจุบัน เธอฉันต่างสืบปณิธานและผูกพยาบาทมาด้วยกัน
พุทธปณิธานหรือมนุษย์สัมพันธ์ บุญปัจจัยหรือกรรมสัมพันธ์
ชำระปณิธานหรือชำระสัมพันธ์
ชำระพุทธปณิธานแล้ว ก็ต้องชำระกรรมสัมพันธ์

你對我錯,我對不起你;
你對我沒錯,我也對不起你;
你不對我沒錯,我也要對不起你;
我對你錯,我更要對不起你。
前世今生,你我都乘愿而來也結怨而來,
佛愿或人緣,善愿或惡緣,了愿了緣,了了佛愿也要了人緣

.....
นุสนธิ์บุคส์ธรรมะ

5/9/57

ร่วมมือ


ในคืนวันหนึ่ง แม่กุญแจก็บ่นให้ลูกกุญแจฟังว่า
“ฉันต้องถูกล็อคไว้ที่บ้านไม่ได้ไปไหน แต่เธอนะไปไหนเจ้านายก็เอาไปด้วย ฉันอิจฉาเธอจริงๆเลย”
แต่ลูกกุยแจกลับเถียงกลับไปว่า
“เธอนั่นแหละที่โชคดี ได้อยู่กับบ้านทุกวันอย่างสบายๆ ไม่ต้องตากแดดตากฝน ฉันละอิจฉาเธอจริงๆ”
อยู่มาวันหนึ่ง หลังจากเจ้าของบ้านออกไปทำธุระ แต่ไม่ได้เอาลูกกุญแจไปด้วย มันจึงสบโอกาสแอบซ่อนตัวเองไว้ไม่ให้ใครรู้ หลังจากเจ้าของบ้านกลับมาถึงบ้าน หาลูกกุญแจอย่างไรก็หาไม่เจอ อารมณ์โมโห ก็เลยทุบแม่กุญแจทิ้ง จากนั้นก็เอาไปทิ้งในถังขยะ
เมื่อเดินเข้าบ้าน เห็นลูกกุญแจตกอยู่ใต้โต๊ะ ก็สบถออกมาว่า
“แม่กุญแจก็เสียไปแล้ว มีเธอไปก็ไม่มีประโยชน์”
พูดเสร็จ เขาก็โยนลูกกุญแจทิ้งลงถังขยะ
ในถังขยะ แม่กุญแจและลูกกุญแจได้แต่ถอดทอนใจ
แม่กุญแจจึงเอ่ยขึ้นว่า
“เพราะเราไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง กลับเอาแต่อิจฉากัน เรื่องมันจึงจบแบบนี้!”

# ในขณะที่คุณอิจฉาคนอื่น คนอื่นก็อาจจะกำลังอิจฉาคุณเช่นเดียวกัน อิจฉามิสู้ชื่นชม ร่วมมือ สนับสนุนซึ่งกัน เพราะต่างคนต่างมีคุณประโยชน์ใช้สอยที่ต่างกันไป รถยนต์คนหนึ่งหากน็อตเล็กๆตัวหนึ่งหายไป อาจนำมาซึ่งความเสียหายใหญ่หลวง อย่าดูแคลนงานที่ตัวเองทำ ทุกคนล้วนมีความสำคัญ

กลัดกลุ้ม เกิดจากอะไร?


เรื่องราวในชีวิตคนเราในโลกนี้มีมากมายไม่จบสิ้น
แต่ทว่า หากเราแบ่งเป็นหมวดหมู่ใหญ่ๆ แล้ว เรื่องราวในชีวิตของคนเราก็มีเพียง 3 หมวดเท่านั้นเอง
ได้แก่
“เรื่องของตัวเอง”
“เรื่องของคนอื่น”
“เรื่องของฟ้าเบื้องบน”

“เรื่องของตัวเอง”
หมายถึงสิ่งที่เกี่ยวพันกับการดำรงชีวิตของเรา เช่น ทำงาน กินข้าว หลับนอน ความรักความผูกพัน ฯลฯ เป็นเรื่องราวที่เราสามารถจัดการวางแผนได้ด้วยตนเอง

“เรื่องของคนอื่น”
หมายถึงเรื่องราวที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเรา เช่น สมชายชอบคุยโอ่ สมหมายชอบเล่นไพ่ สมทรงไม่ชอบอาบน้ำ ฯลฯ เหล่านี้เป็นเรื่องของคนอื่น เป็นสิทธิของคนอื่นเขาไม่เกี่ยวอะไรกับเรา

“เรื่องของฟ้าเบื้องบน”
หมายถึงภัยพิบัติ น้ำท่วม ไฟไหม้ แผ่นดินไหว สึนามิ ฯลฯ ฟ้าเบื้องบนเป็นผู้กำหนด

สิ่งที่ทำให้มนุษย์เราอยู่แบบไม่มีความสุขก็เพราะว่า
“ลืมเรื่องราวของตัวเอง ชอบยุ่งเรื่องราวของคนอื่น กลุ้มใจในเรื่องของฟ้าเบื้องบน”
ยกตัวอย่างเช่น ลืมย้อนพิจารณาตนเอง ลืมทำหน้าที่ของตนให้ดี
ชอบติฉินนินทาเรื่องราวของชาวบ้าน ชอบเจ้ากี้เจ้าการเรื่องราวของคนอื่น(ชอบเป็นผู้หวังดีแต่ประสงค์ร้าย)
ชอบคาดเดาว่าเมื่อไหร่โลกจะแตก! สวรรค์นิพพานมีสภาพเป็นยังไง? ประเทศใดจะล่มสลายก่อนเพื่อน ฯลฯ

เรื่องราวทั้ง 3 คือที่มาของความกลัดกลุ้มกังวลของคนเรา จะทำอย่างไรให้ 3 เรื่องนี้สมดุลกัน
ข้าพเจ้าคิดว่า
“จัดการเรื่องราวของตนเองให้ดี
ไม่ต้องคิดควบคุมเรื่องราวของคนอื่น(ไม่ได้หมายความว่าเจอคนปล้นฆ่าอนาจารแล้วก็ยืนดูอยู่เฉยๆ)
เรื่องราวของฟ้าให้ฟ้าลิขิตทำชีวิตตนในตั้งอยู่ในความดีงาม (30 ลิขิตฟ้า 70 ต้องฝ่าฟันเอง) ”

วางเรื่องราวในใจลงไม่ได้ คือต้นเหตุแห่งความกลัดกลุ้ม
ดังนั้น ความกลัดกลุ้มเกิดจากเราเป็นคนหามาเอง หากเราไม่ทำให้ตัวเองกลัดกลุ้ม ใครจะทำให้เรากลัดกลุ้มได้
ในยามที่ความกลัดกลุ้มมาเยือน
ลองตรวจสอบว่า นี่เป็นเรื่องของตัวเอง เรื่องของคนอื่น หรือเรื่องของฟ้าเบื้องบน
เราย่อมรู้ว่าจะจัดการกับตัวเราเองอย่างไร!
และย่อมปลดเปลื้องความระทมทุกข์ในใจได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน

3/9/57

ผมเป็นBFของคุณ!


เด็กผู้ชายคนหนึ่งพูดกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งว่า
“ฉันเป็น BF ของเธอ”
เด็กผู้หญิงมองหน้าเด็กผู้ชาย แล้วถามไปว่า
BF คืออะไร?”
เด็กผู้ชายหัวเราะคิกคักแล้วตอบไปว่า
“ก็หมายความว่า best friend ไงละ”(เพื่อนที่ดีที่สุด)

เมื่อโตมา พวกเขาก็คบหากันเป็นแฟน
เด็กหนุ่มพูดกับเด็กสาวว่า
“ผมเป็น BF ของคุณ”
เด็กสาวเอียงหน้าด้วยความเขินอาย แล้วถามไปว่า
BF คืออะไร?”
เด็กหนุ่มยิ้มแย้มด้วยหัวใจชุ่มชื่นแล้วตอบไปว่า
“ก็หมายความว่า boy friend ไงละ”(แฟน)

พวกเขาคบหากันเป็นแฟนได้หลายปี ก็ตัดสินใจแต่งงานกัน
และก็มีลูกสาวที่น่ารักคนหนึ่ง
สามีพูดกับภรรยาว่า
“ผมเป็น BF ของคุณ”
ภรรยาถามสามีด้วยสีหน้าอ่อนโยนว่า
BF คืออะไร?”
ผู้เป็นสามีมองหน้าบุตรสาวด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข แล้วตอบไปว่า
“ก็หมายความว่า baby's father  ไงละ”(พ่อของลูก)

เมื่อเขาทั้งสองแก่ตัวลง
สองเฒ่านอนอยู่บนเปลหน้าระเบียงบ้าน มองดูพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน
สามีเฒ่าก็พูดกับภรรยาเฒ่าว่า
“ยายเฒ่า ฉันเป็น BF ของเธอนะ”
ภรรยาเฒ่าถามสามีชราด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยเหี่ยวย่นว่า
“ตาแก่ BF คืออะไร?”
สามีเฒ่ามองไปที่พระอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้า จากนั้นก็มองที่ใบหน้าภรรยา แล้วตอบไปด้วยเสียงอันแหบพร่าแต่แฝงด้วยพลังว่า
Be forever”(ชั่วกัลปาวสาน)

…………………
สุภาษิตจีนกล่าวว่า
夫妻是緣,善緣、惡緣,無緣不聚。子女是債,討債、還債、無債不來。
สามีภรรยาคือสัมพันธ์ บุญสัมพันธ์หรือกรรมสัมพันธ์ ไร้สัมพันธ์ไม่มาพบเจอกัน
บุตรธิดาคือหนี้ ทวงหนี้หรือใช้หนี้ ไม่มีหนี้ไม่มาเกิดเป็นลูก
ไม่ว่าเป็นบุญหรือกรรม วันนี้คุณก็แต่งงานกันแล้ว ต้องรู้ถนอมความสัมพันธ์
ไม่ว่าคุณจะมาทวงหนี้หรือใช้หนี้พ่อแม่ วันนี้ท่านคือผู้ให้กำเนิด ต้องกตัญญูรู้คุณ
ธรรมะ คือหลักค้ำประกันครอบครัวให้เป็นสุข
ดั่งที่อาจารย์ผมมักจะบอกอยู่เสมอว่า
“ทุกคนมีธรรม ครอบครัวมีธรรม สังคมมีธรรม ชาติบ้านเมืองย่อมสงบร่มเย็น”
อยู่ในศีลในธรรม ตามที่พระศาสดาของเราในทุกศาสนาทรงสอนนะครับ

รู้สึกยินดีที่ได้รู้จักทุกๆ ท่านเช่นกัน
ด้วยจิตสำนึกคุณ


นุสนธิ์

หลุมพรางแห่งตัณหาอารมณ์


ชีวิตคนเรา เหมือนหนูตกถังข้าวสาร 
ด้านหนึ่งปิติยินดี ด้านหนึ่งกลัดกลุ้มกังวล
ที่ปิติก็เพราะได้พบเจอกับสิ่งที่ปรารถนา
ที่กลัดกลุ้มก็คือเมื่อกินข้าวสารหมดแล้ว จะขึ้นจากถังได้อย่างไร?
ผู้คนบนโลกนี้มากมาย ที่เห็นเพียงข้าวสารอันหอมอร่อยตรงหน้า
แต่ไม่เคยคิดหาทางที่กระโดดออกจากหลุมพรางนี้ได้อย่างไร!
ชีวิตคนเรามีจุดจบฉันใด การเสพสุขก็มีวันจบสิ้นฉันนั้น
หนูที่ชาญฉลาด ไม่โลภกินข้าวสารที่อยู่ตรงหน้าจนหมดสิ้น 
เพราะนั่นคือการตัดทางรอดของตนเอง
ผู้มีปัญญานั้นรู้ดีว่าอะไรคือหลุมพราง ย่อมไม่กระโจนลงไปในกับดักนั้น
อยู่บนโลกใบนี้ อย่าโลภมากอยากได้จนเกินไป
ผู้กระจ่างแจ้งในชีวิตเท่านั้นที่รู้จักนำพาตนเองออกจากหลุมพราง
ผู้บำเพ็ญธรรม มิใช่ละทิ้งสิ่งของรอบกาย
แต่ไม่ถูกสิ่งของรอบกายบดบังปัญญา
ทำได้เช่นนี้ ย่อมไม่ตกสู่หลุมพรางแห่งตัณหาอารมณ์